คนจริงใจ หายาก เพราะสังคมนี้ คนส่วนใจเห็นเเก่ตัวโดนเอาเปรียบกันมาใช่มั้ยคะ

• ตอนคุณลำบากคุณคิดถึงใคร คุณอยากให้ใครช่วยเหลือ ตอนนี้คุณกำลังสบายอยู่แล้วคนที่คุณคอยขอความช่วยเหลือล่ะ หมดประโยชน์แล้วหรือ

มันก็จริงที่เขาพูด เพราะสังคมทุกวันนี้#เห็นแก่ตัว#เห็นแก่ได้#ชอบเอาเปรียบ#ผลประโยชน์ต้องมาก่อน

เกิดมาพร้อมกับการแก่งแย่งแข่งขัน ปากกัด ตีนถีบ เพื่อให้ตนเองอยู่รอดในสังคม ซึ่งมนุษย์ก็จะมีพฤติกรรม หรือมีลักษณะทางธรรมชาติที่เรียกว่า “เห็นแก่ตัว” ดังนั้นคนที่เห็นแก่ตัวมีลักษณะเช่นไร อย่างไรที่เรียกว่าเห็นแก่ตัว ซึ่งบุคคลที่เห็นแก่ตัวจะมีลักษณะ หรือพฤติกรรม 

• เมื่อใครสักตนหนึ่งทำผิด อย่าพึ่งตำหนิหรือต่อว่าเขา เพราะถ้าเราเป็นเขาและตกอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นเดียวกับเขา เราอาจตัดสินใจทำเช่นเดียวกับเขาก็ได้
•  การเห็นแก่ตัวเป็นไรที่แย่สุดๆ

 อย่าเห็นแก่ตัว" หมายถึงคิดถึงคนอื่น มองให้ไกล อย่าคิดแค่ผลประโยชน์ของตัวเอง ของกลุ่มตน"อย่าเห็นแก่ตัว" มีหลายระดับ จากแคบไปสู่กว้าง จากตัวเองไปสู่ครอบครัว สู่ญาติมิตร สู่บริษัทตัวเอง สู่หมู่บ้านตัวเอง สู่จังหวัดตัวเอง สู่สังคมตัวเอง

สำรวจพบ มนุษย์ยุคใหม่รับว่า "เห็นแก่ตัว" มากขึ้น

นินทาเพื่อนร่วมงาน อีกหนึ่งพฤติกรรมไม่ค่อยดีนักที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบทำ (ขอบคุณภาพประกอบจากเดลิเมล)         ไม่เฉพาะในประเทศไทย ทางฟากฝั่งตะวันตกเองก็ได้มีการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อดังกล่าวนี้ด้วย และพบว่า คนส่วนหนึ่งยอมรับว่าตนเองนั้น มีพฤติกรรมเห็นแก่ตัวมากขึ้น แถม 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับว่าทำพฤติกรรมเหล่านี้มากกว่าวันละ 2 เรื่องอีกต่างหาก               ยกตัวอย่างพฤติกรรมเห็นแก่ตัวที่แบบสำรวจสำรวจพบ ได้แก่ เก็บเงินได้แต่ไม่ส่งคืนเจ้าของ, เปิดประตูเข้าอาคารเฉพาะตัวเองคนเดียว ไม่หันมาดูว่ามีคนข้างหลังหรือเปล่า, พูดนินทาเพื่อนร่วมงานลับหลัง, บริจาคเงินเพื่อการกุศลน้อยลง, ช่วยเพื่อนร่วมงานน้อยลง หรือช่วยแต่ไม่เต็มความสามารถ, โกหกเพื่อให้ตัวเองดูดีในที่ทำงาน, ไม่ช่วยคนชราถือของ, แซงคิว, เมื่อขับรถผ่านทางที่มีน้ำขัง ก็ขับรถเร็วจนน้ำกระเซ็นโดนคนเดินถนน, ยืมของคนอื่นและไม่ยอมนำมาคืน, โทษว่าเป็นความผิดของคนอื่นในสิ่งที่ตนเองเป็นคนทำ, ไม่เสียสละที่นั่งให้กับคนชราหรือสตรีมีครรภ์, ทำอาหารเย็นตามเมนูที่ตนเองต้องการแต่เพียงฝ่ายเดียว, แบ่งอาหารออกเป็นสองส่วน แต่ตนเองเลือกเอาส่วนที่มีขนาดใหญ่กว่า, ยืนอยู่ในลิฟต์ข้างปุ่มกด แต่ไม่ยอมกดลิฟต์ให้คนอื่น, ยืมดีวีดีเรื่องที่ตนเองอยากดู แต่ไม่ถามถึงความต้องการของคนข้างกายว่าเขาอยากดูเรื่องอะไร เป็นต้น               อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่ปฏิเสธการทำงานการกุศล หรือการเข้ามีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ไม่ได้เงินนั้น เหตุผลที่ผู้ตอบแบบสอบถามให้เอาไว้ก็คือ ความเหนื่อยล้าจากการงานเป็นหลัก มีเพียง 1 ใน 10 ที่ยอมรับว่า ตนเองไม่เข้าร่วมงานจิตอาสา เพราะ "มันไม่มีค่าตอบแทน"       สุดท้ายขอฝาก หากทุกคนมีคุณธรรมที่อยู่ในจิตสำนึกพื้นฐานของมนุษย์บกพร่องไป และตัดสินเรื่องต่าง ๆ เพียงเพื่อความอยู่รอด เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง เราย่อมเป็นคนหนึ่งที่ทำให้สังคมเลวร้ายลง แทนที่จะทำให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น ดังนั้นเพื่อให้หลีกเลี่ยงต่อการพยายามเห็นแก่ตัวของตนเอง จึงมีข้อเสนอแนะที่ว่า รู้จักให้ และแบ่งปันบ่อยๆ, ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง หรือการวางเฉย, ไม่ใช้ชีวิตประมาท และระลึกเสมอถึงความรู้จักพอ.....